Investment Opportunity
เทรนด์การเดินทางที่เปลี่ยนไป สอดรับกับความต้องการที่พักระยะสั้น (STR)
ความต้องการที่พักระยะสั้น (STR) เติบโตเร็วกว่าโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการเดินทางรูปแบบใหม่ เช่น การเดินทางแบบ “ธุรกิจควบคู่พักผ่อน” (bleisure) และการพักระยะยาวในช่วงไตรมาส 1 ปี 2022 ถึง ไตรมาส 2 ปี 2023 ความต้องการโรงแรมลดลง 0.6% ขณะที่ความต้องการ STR เพิ่มขึ้นถึง 11.7%STR ตอบโจทย์ความชอบของผู้เดินทางที่ต้องการพื้นที่กว้างขึ้น และความยืดหยุ่นในการทำงานและพักผ่อนในพื้นที่ที่ไม่แออัด เทรนด์เหล่านี้ที่เร่งขึ้นในช่วงโควิด ทำให้ที่พักระยะสั้นกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าโรงแรมแบบดั้งเดิม
ความต้องการที่พักระยะสั้น (STRs) เพิ่มขึ้นในพื้นที่เมืองรอง
ในเดือนพฤษภาคม 2023 ความต้องการที่พักระยะสั้นในเมืองขนาดเล็กและพื้นที่ชนบทเพิ่มขึ้นถึง 24% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี ขณะที่โรงแรมในพื้นที่เดียวกันแทบไม่มีการเติบโต (0%)
นักเดินทางให้ความสนใจพื้นที่เหล่านี้มากขึ้น เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง ความเป็นส่วนตัว และประสบการณ์ที่แตกต่าง ทำให้ความต้องการ STRs ในทำเลเหล่านี้ยิ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
Slow Travel และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นักเดินทางในยุคนี้นิยมใช้เวลาพักในจุดหมายปลายทางเดียวนานขึ้น เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
ตลาด Slow Travel ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 10.5% และคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 105.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2026
การเติบโตของการทำงานทางไกลและดิจิทัลโนแมด
ความคุ้มค่าของค่าครองชีพในญี่ปุ่น และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน ทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักทำงานทางไกลและดิจิทัลโนแมด
โดยทั่วไป ดิจิทัลโนแมดมักเข้าพักในที่พักระยะสั้น (STRs) เป็นเวลาประมาณ 3–6 เดือน ซึ่งตรงกับข้อเสนอที่พักแบบ STRs อย่างลงตัว
การเปลี่ยนแปลงสู่พื้นที่ชนบทและเมืองรอง
หลังโควิด-19 นักเดินทางเริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกพักในพื้นที่ชนบทและเมืองรองที่มีความเงียบสงบ แทนการอยู่ในศูนย์กลางเมืองที่แออัดและหนาแน่นมากขึ้น